
.jpg)
GH Growth Hormone (Spray)
สเปรย์ ฉีดใต้ลิ้น สินค้า Excusive อเมริกา ผ่านกระบวนการห้องแลปอย่างถูกต้อง ถูกคิดค้นเพื่อชะลอวัยและฟื้นฟูร่างกาย ผิวพรรณ ใบหน้า และกระบวนการร่างกายให้เฟรช และคืนความอ่อนวัยให้แก่ผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เซลล์บนใบหน้าหย่อนคล้อย ฝ้า กระ เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ หากมีการป้องกันอย่างถููกวิธี ก็จะช่วยลดเลือนและชะลอวัยได้ ห้องแลปของ USA ได้คิดค้น สเปรย์ใต้ลื้น โดยระบุุการฉีดใต้ลิ้น บริเวรที่เส้นเลือกมากที่สุด เพื่อเน้นการดูดซึมของร่างกายเกือบ 100% ไม่ผ่านกระบวนการย่อยอาหาร จึงทำให้ร่างกายได้นำการหล่อเลี้ยง จากปลายประสาทได้อย่างเต็มที่
กระบวนการทำงานของ โกส ฮอร์โมนจะเข้าไปซ่อมแซมผิวหน้า และฟื้นฟูให้ ผิวพรรณ ใบหน้า เปล่งปลั่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
การใช้งาน สเปรย์ เช้า และก่อน เป็นประจำทุกวัน บริการเวรใต้ลิ้น
โกรทฮอร์โมน ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโต เป็น ฮอร์โมนที่หลั่งมาจากต่อมไร้ท่อ สร้างจากต่อมพิทูอิทารีภายใต้สมอง รู้จักกันดีในฉายาว่า “น้ำพุแห่งความหนุ่มสาว” โกรทฮอร์โมน มี ความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของร่างกายเรา โดยเฉพาะวัยเด็กที่ต้องการการเจริญเติบโตมากเป็นพิเศษเพราะช่วยควบคุมการ เจริญเติบโตของกระดูกให้แข็งแรงจนกระทั่งถึงช่วงอายุ 25 ปี ดังนั้นจึงทำให้เด็กเจริญเติบโตสูงสมวัย ไม่แคระแกร็น ช่วยเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อแน่น เสริมสร้างภูมิต้านทาน การพัฒนาการด้านสมอง คงความหนุ่มสาวและยังช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย
โกรทฮอร์โมน หรือ HGH (Human Growth hormones) มีโปรตีนที่มีกรดอะมิโนอยู่มากมายถึง 191 โมเลกุล ในแต่ละช่วงอายุก็จะมีการหลั่งไม่เท่ากันแต่ออร์โมนตัวนี้จะสามารถหลั่งได้ตลอดชีวิต โดย ระดับการหลั่งจะหลั่งออกมามากเป็นพิเศษในช่วงวัยเจริญเติบโตหรือวัยเจริญ พันธุ์และเริ่มน้อยลงเมื่อเข้าสู่วัยชรา แต่ก็อาจมีปัจจัยอื่นที่สามารถส่งผลกระทบต่อการหลั่งที่น้อยลงของโกรทฮอร์โมนเช่น โภชนาการอาหาร ความเครียด การนอนหลับ การออกกำลังกาย น้ำหนัก
โกรทฮอร์โมนนั้นจะผลิตในขณะที่เรานอนหลับ มีการหลั่งในชั่วโมงแรกหลังจากที่หลับสนิท และจะถูกส่งไปยังตับเพื่อเปลี่ยนเป็นสารคล้ายอินซูลิน (Insulin like growth factor-1 หรือ IGH-1) หรือโซมาโตเมดิน (Somatomedin) นำไปใช้ในร่างกายเพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อนั่นเอง จากการวิจัยจากวารสารทางการแพทย์นิวอิงแลนด์ (New England) พบว่า การทดลองให้คนอายุ 65 ปี แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือได้รับ HGH และไม่ได้รับ HGH ผลคือกลุ่มที่รับ HGH ทำให้ผมที่เคยหงอกลดลง เริ่มกลับมาดกดำขึ้น ในบางรายมีการลดลงของรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและตามร่างกาย อีกทั้งมีสมรรถภาพทางเพศที่เพิ่มขึ้นด้วย ความเสื่อมจากความชราลดลง ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับ HGH จะมีความชราตามปกติโดยไม่มีการฟื้นฟูที่ดีขึ้น
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ โกรทฮอร์โมน ลดลง
ระดับของโกรทฮอร์โมนจะ ลดลงเรื่อยมาตามอายุที่มากขึ้น มีระดับสูงมากที่สุดในครรภ์มารดา ลดลงเรื่อยมาเมื่อเข้าสู่วัยเด็ก แต่พอเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ฮอร์โมนนี้จะกลับมามากขึ้นอีกครั้ง จะหลั่งในขณะที่เรานอนหลับ ช่วยกระตุ้นการยืดตัวทำให้สูงขึ้น แต่วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะนอนดึกหรือทานอาหารที่มีประโยชน์น้อย ทำให้การหลั่งฮอร์โมนนี้ไม่ค่อยเพียงพอต่อความต้องการนัก และเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป การหลั่งฮอร์โมน HGH จะลดลง 40 % ของฮอร์โมนที่หลั่งในตอนอายุ 20 ปี บางรายอาจจะไม่มีการหลั่งฮอร์โมนออกมาเลยก็ได้ เมื่อร่างกายขาดฮอร์โมนนี้ ทำให้เสียความสมดุล การทำงานของอวัยวะต่างๆ ลดลง อ่อนแอ และทำให้เกิดโรคต่างๆได้ง่าย และที่สำคัญคือ ความชราจะเริ่มตามมานั่นเอง
เมื่อร่างกายเรามีการหลั่ง HGH ลดลง ความชราก็จะเพิ่มมากขึ้น โดยสังเกตจากอาการเริ่มแรก คือ มีผมขาวหรือผมหงอกก่อนวัย พลังงานเริ่มลดน้อยลง สมรรถภาพในการทำงานถดถอย เหนื่อยง่าย ขยับร่างกายไม่กระฉับกระเฉงเหมือนแต่ก่อน มีความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไขมันก่อตัวเพิ่มขึ้น กระดูกพรุน เริ่มตรวจพบโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดต่างๆ เป็นต้น แต่อาการเหล่านี้อาจพบได้ในคนวัยหนุ่มสาวที่มีการขาดโกรทฮอร์โมนได้เช่นกัน
ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ของ โกรทฮอร์โมน (Human Growth hormones)
ด้านกล้ามเนื้อ
โกรทฮอร์โมนในเรื่องกล้ามเนื้อ ช่วยเสริม กล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรง ในการการออกกำลังกาย ความอึดของร่างกายมีมากขึ้น เพิ่มความสามารถทางด้านกล้ามเนื้อ วารสารทางการแพทย์นิวอิงแลนด์ (New England) มีการศึกษาในคนอายุ 60-80 ปี พบว่า มีการเพิ่มของกล้ามเนื้อ ทั้งปริมาณและความหนาแน่น นายแพทย์ L. Cass Terry กล่าวว่า HGH สามารถลดไขมันได้ภายใน 2 เดือน 88% ของผู้ที่ได้รับ HGH พบว่าช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ทำให้ทนทำงานหนักและออกกำลังกายได้นานขึ้นและทนต่อแรงกดดันจากการทำงานได้ดี ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ก็มีอาการดีขึ้น จากที่ต้องนั่งรถเข็น หรืออยู่แต่ในบ้าน ก็สามารถออกมาข้างนอกได้มากขึ้น มีการเคลื่อนไหวของข้อต่อดี ป้องกันโรคข้อเสื่อมก่อนวัย ผู้สูงอายุสามารถยืนได้เอง ในนักกีฬา HGH สามารถช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อจากการเล่นกีฬาได้ ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในผู้สูงอายุที่มีอาการของโรคความดันโลหิตสูงและกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ การได้รับโกรทฮอร์โมนเพิ่มนั้น ช่วยฟื้นฟูและป้องกันโรคต่างๆเหล่านี้ได้อีกด้วย
ด้านกระดูก
มีผลช่วยต้านภาวะกระดูกพรุน เนื่องจากโกรทฮอร์โมนช่วย เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก นายแพทย์ Gudmundur Johansson มีการทดสอบในกลุ่มคนอายุระหว่าง 23-66 ปี พบว่า มีปัญหาขาด HGH อย่างมาก แต่หลังจากได้รับ HGH เพิ่มเป็นเวลา 2 ปี พบว่ามีความหนาแน่นของมวลกระดูกที่เพิ่มขึ้น พบที่กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน มีแคลเซียมในกระดูกมากขึ้น ลดการแตกหักของกระดูกได้ดี HGH จะไปกระตุ้นเซลล์กระดูก ชนิด Osteoblast เพื่อทำการสร้างเซลล์กระดูก อีกทั้งยังช่วยให้วิตามินบี 3 เข้าไปจับแคลเซียมเพื่อให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันกระดูกแตกง่ายได้อีกด้วย ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะเพิ่มขึ้นได้เหมือนเดิมภายใน 2 ปี และมีผลดีที่เกี่ยวพันกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) ได้ภายใน 1 สัปดาห์
ด้านการป้องกันโรคหัวใจ
โกรทฮอร์โมนช่วยในเรื่องการกระตุ้นการสูบ ฉีดเลือดของหัวใจ (Cardiac output) ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ลดภาวะความดันโลหิตสูง ปรับสมดุลของคอเลสเตอรอล ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของหัวใจ จึงลดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ หลอดเลือดได้ ระดับโคเลสเตอรอลกลับมาเป็นปกติเพราะไปช่วยลดไขมันเลว (LDL) ลง ช่วยเพิ่มไขมันดี (HLD) ลดความดันช่วงล่าง (Diastolic pressure) ได้ถึง 10% ช่วยให้ความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายเฉียบพลันน้อยลง วารสารทางการแพทย์ นิวอิงแลนด์ (New England) พบว่ามีการเสียชีวิตจากการวูบหมดสติ (Stroke) ถึง 1.5 ล้านคน หากเราได้รับ HGH เพิ่มจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคนี้ได้มากขึ้น ช่วยลดภาวะความดันโลหิตช่วงล่าง (Diastolic Pressure) ได้ถึง 10% หลังจากได้รับเพียง 6 เดือน ด้านการทดลองกับสัตว์ พบว่า HGH สามารถช่วยป้องกันอาการเซลล์ตายหลังจากเกิดการวูบหมดสติหรือหัวใจวาย (Stroke) ได้
ด้านจิตใจ
ฮอร์โมนนี้ช่วยปรับอารมณ์และเสริมความแข็งแกร่งด้านจิต ใจได้เพราะ มีส่วนช่วยเพิ่มพลังงาน ในเรื่องการนอนหลับสนิท ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริงเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกสดชื่น แจ่มใส ร่างกายมีความพร้อมในการทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องการทำงาน จากรายงานของ Johannsson พบว่า โกรทฮอร์โมนมีผลต่อสารสื่อประสาท (Neuro-transmitter) เช่น B-Endorphin ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารระงับความปวดที่ดี ลดระดับของโดพามีน (Dopamine) ที่มีผลต่อความุรนแรงของอารมณ์ และจากการศึกษาของนายแพทย์ Jan Berend Deijiem และกลุ่มวิจัยชาวดัทช์ พบว่าโกรทฮอร์โมนมีผลช่วยในเรื่องความจำ หากขาดฮอร์โมนชนิดนี้ไป จะทำให้มีการด้อยพัฒนาในส่วนของความจำระยะสั้นและระยะยาว ความสามารถของระบบประสาทตาและความสัมพันธ์การทำงานของมือจะแย่ลง ในผู้ป่วย ถ้ามี IGF-1 ลดน้อยลง จะทำให้มีผลต่อการรับรู้และสติปัญญาได้
ด้านความสวยความงามของผิวพรรณ
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นเหมือนดังผิวของคนหนุ่มสาว ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้าและตามร่างกาย ลดรอยตีนกา ช่วยฟื้นฟูให้กลับมาหนุ่มสาวได้อีกครั้ง
ขอบคุณที่มา http://www.oknation.net/blog/30uphealthclub/2014/12/16/entry-1
.jpg)
|